น้ำในหูไม่เท่ากัน ไม่รีบป้องกัน อาจได้ของแถม
อย่าสละสุขภาพเพื่อหาเงิน...แล้วต้องสละเงินเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ...จะดีกว่ามั้ยที่เราจะดูแลสุขภาพไปพร้อมๆกับการหาเงิน...
อย่ามัวแต่ทำงานโดยไม่ใส่ใจสุขภาพตัวเราเอง เพราะหากสุขภาพเราแย่แล้วเงินที่หามาได้อาจไม่พอ
อดีตเป็นพนักงานประจำ ทำงานแผนกบัญชี ช่วงแรกของการทำงานเมื่ออายุยังน้อยคิดอย่างเดียวว่าถ้าได้เงินจากการทำงานเยอะๆในแต่ละเดือนจะทำให้ชีวิตในอนาคตสุขสบาย จึงทำงานอย่างเต็มที่ มีโอทีก็ทำทุกวัน กลับบ้านดึกตลอด อาทิตย์หนึ่งมีวันหยุดแค่ 1 วัน ภายในระยะเวลา 1 ปีกับการทำงานอย่างเต็มที่มีเงินเก็บแต่ก็ได้ของแถมคือ อาการปวดหัว ปวดเบ้าตา เวียนหัว เนื่องจากสายตาสั้น พอรู้สาเหตุก็ตัดแว่นใส่อาการที่เป็นทุเลาขึ้น ดีขึ้น ทำงานต่อเนื่องเช่นนี้ 13 ปี ตลอดระยะเวลาการทำงานบริษัท ด้วยลักษณะงานที่ทำ ช่วงต้นเดือนงานเยอะ กลับบ้านดึก ทำให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ดิฉันเริ่มมีอาการปวดหัวในตอนเช้า ปวดท้ายทอย เริ่มมีอาการเวียนหัว จึงไปตรวจก็ได้ยามาทานและได้รับการแนะนำให้ออกกำลังกาย ดิฉันก็ทำตามคำแนะนำ ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 วัน โดยการตีแบตกับเพื่อนๆหลังเลิกงาน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
อยู่มาวันหนึ่งช่วงต้นเดือน วันนั้นคุณแม่และคุณยายมาเยี่ยมที่บ้าน ดิฉันกลับจากทำงาน 4 ทุ่มเนื่องจากต้องปิดบัญชี กลับถึงบ้านคุณแม่และคุณยายนอนหลับแล้ว ดิฉันอาบน้ำและเข้านอนตามปกติ ดิฉันเข้านอนประมาณ 5 ทุ่มครึ่งโดยไม่รู้สึกอะไร ประมาณตี 4 ดิฉันรู้สึกตัวและได้ยินเหมือนเสียงนกหวีดร้องในหู ยังไม่ทันที่ดิฉันจะทำอะไร ห้องที่ดิฉันนอนอยู่หมุนอย่างรวดเร็ว ดิฉันพยายามตั้งสติอยู่พักหนึ่ง ยกหัวขึ้นไม่ได้ ใช้มือควานหาโทรศัพท์แล้วโทรหาคุณแม่ ดีที่วันนั้นดิฉันไม่ได้ล็อกห้องนอน แม่เปิดประตูเข้ามาได้ คุณแม่หายาดม ยาหอมให้ คุณแม่ต้องยกศีรษะดิฉันขึ้นดิฉันจึงทรงตัวได้
แต่คุณแม่ต้องยืนอยู่ข้างๆตลอดเวลา คุณแม่ใช้เวลาในการปฐมพยาบาลดิฉันอยู่เป็นชั่วโมงอาการจึงดีขึ้นได้ และพอดีกับแฟนของดิฉันกลับจากทำงาน ประมาณตี 5 กว่าๆจึงได้พาไปโรงพยาบาลและนอนพักดูอาการจึงกลับบ้านได้ ดิฉันต้องพักรักษาตัวอยู่เกือบอาทิตย์จึงสามารถไปทำงานได้ตามปกติ แต่เวลานั่งทำงานเหมือนจะตกเก้าอี้ตลอดเวลา ดิฉันต้องรักษาตัวอยู่เรื่อยมา
ปัจจุบันดิฉันทานแค่ผลิตภัณฑ์โกเรจิ้นส์ ดี และอเลอไทด์ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นมากเลยคะ อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมดูแลสุขภาพกันนะค่ะ หากวันนี้มีสัญญาณเตือนจากร่างกาย ดูแลและใส่ใจเค้าไปพร้อมๆกับการใช้เค้าทำงานค่ะ ดิฉันยังโชคดีที่ดูแลทัน แต่ถ้าหากวันนั้นคุณแม่และคุณยายไม่มาดิฉันคงไม่มีโอกาสได้มาถึงวันนี้ ขอบคุณร่างกายที่ยังให้โอกาสดิฉันค่ะ
อย่ามัวแต่ทำงานโดยไม่ใส่ใจสุขภาพตัวเราเอง เพราะหากสุขภาพเราแย่แล้วเงินที่หามาได้อาจไม่พอ
อดีตเป็นพนักงานประจำ ทำงานแผนกบัญชี ช่วงแรกของการทำงานเมื่ออายุยังน้อยคิดอย่างเดียวว่าถ้าได้เงินจากการทำงานเยอะๆในแต่ละเดือนจะทำให้ชีวิตในอนาคตสุขสบาย จึงทำงานอย่างเต็มที่ มีโอทีก็ทำทุกวัน กลับบ้านดึกตลอด อาทิตย์หนึ่งมีวันหยุดแค่ 1 วัน ภายในระยะเวลา 1 ปีกับการทำงานอย่างเต็มที่มีเงินเก็บแต่ก็ได้ของแถมคือ อาการปวดหัว ปวดเบ้าตา เวียนหัว เนื่องจากสายตาสั้น พอรู้สาเหตุก็ตัดแว่นใส่อาการที่เป็นทุเลาขึ้น ดีขึ้น ทำงานต่อเนื่องเช่นนี้ 13 ปี ตลอดระยะเวลาการทำงานบริษัท ด้วยลักษณะงานที่ทำ ช่วงต้นเดือนงานเยอะ กลับบ้านดึก ทำให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ดิฉันเริ่มมีอาการปวดหัวในตอนเช้า ปวดท้ายทอย เริ่มมีอาการเวียนหัว จึงไปตรวจก็ได้ยามาทานและได้รับการแนะนำให้ออกกำลังกาย ดิฉันก็ทำตามคำแนะนำ ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 2 วัน โดยการตีแบตกับเพื่อนๆหลังเลิกงาน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
อยู่มาวันหนึ่งช่วงต้นเดือน วันนั้นคุณแม่และคุณยายมาเยี่ยมที่บ้าน ดิฉันกลับจากทำงาน 4 ทุ่มเนื่องจากต้องปิดบัญชี กลับถึงบ้านคุณแม่และคุณยายนอนหลับแล้ว ดิฉันอาบน้ำและเข้านอนตามปกติ ดิฉันเข้านอนประมาณ 5 ทุ่มครึ่งโดยไม่รู้สึกอะไร ประมาณตี 4 ดิฉันรู้สึกตัวและได้ยินเหมือนเสียงนกหวีดร้องในหู ยังไม่ทันที่ดิฉันจะทำอะไร ห้องที่ดิฉันนอนอยู่หมุนอย่างรวดเร็ว ดิฉันพยายามตั้งสติอยู่พักหนึ่ง ยกหัวขึ้นไม่ได้ ใช้มือควานหาโทรศัพท์แล้วโทรหาคุณแม่ ดีที่วันนั้นดิฉันไม่ได้ล็อกห้องนอน แม่เปิดประตูเข้ามาได้ คุณแม่หายาดม ยาหอมให้ คุณแม่ต้องยกศีรษะดิฉันขึ้นดิฉันจึงทรงตัวได้
แต่คุณแม่ต้องยืนอยู่ข้างๆตลอดเวลา คุณแม่ใช้เวลาในการปฐมพยาบาลดิฉันอยู่เป็นชั่วโมงอาการจึงดีขึ้นได้ และพอดีกับแฟนของดิฉันกลับจากทำงาน ประมาณตี 5 กว่าๆจึงได้พาไปโรงพยาบาลและนอนพักดูอาการจึงกลับบ้านได้ ดิฉันต้องพักรักษาตัวอยู่เกือบอาทิตย์จึงสามารถไปทำงานได้ตามปกติ แต่เวลานั่งทำงานเหมือนจะตกเก้าอี้ตลอดเวลา ดิฉันต้องรักษาตัวอยู่เรื่อยมา
อาการก็เริ่มเป็นเยอะขึ้นอีก เริ่มปวดหัวบ่อย เหนื่อยง่าย กินเยอะแต่น้ำหนักลดลง ดิฉันตัดสินใจตรวจเลือดดู จึงได้รู้ว่าดิฉันได้ของแถมจากการใช้ร่างกายอย่างหนักมาอีกนั่นคือ ไทรอยด์เป็นพิษ ดิฉันต้องทานยาอยู่ตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าจนกระทั่งดิฉันได้มาเจอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ดิฉันไม่ต้องทานยาอีกต่อไป ดิฉันรู้สึกได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วสำหรับการทานผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ดิฉันทานโกเรจิ้นส์ ดี
และอเลอไทด์ ทำให้สุขภาพดีขึ้นอาการไทรอยด์และอาการปวดศีรษะดิฉันดีขึ้นมากคะ
น้ำในหูไม่เท่ากัน
น้ำในหูไม่เท่ากัน ( Meniere's Disease) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำในหูชั้นใน โดยปกติหูชั้นในจะมีน้ำในปริมาณที่พอดีกับการทำงานของเซลล์ประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัวและการได้ยิน และมีการไหลเวียนถ่ายเทเป็นปกติ แต่เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น เช่น การดูดซึมของน้ำในหูไม่ดี ทำให้น้ำในหูชั้นในมีปริมาณมากกว่าปกติ ก็จะส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทรงตัวและการได้ยิน ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หูอื้อ สูญเสียการได้ยิน รู้สึกถึงแรงดันภายในหู เป็นต้น อาการมักเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ต่อเนื่อง และเกิดขึ้นที่หูข้างใดข้างหนึ่ง ในผู้ที่มีอาการรุนแรงอาจเสี่ยงต่อการล้มเกิดอุบัติเหตุในขณะขับขี่ยานพาหนะ หรือในระหว่างการทำงานกับเครื่องจักรได้ รวมถึงอาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียการได้ยินไปอย่างถาวร
อาการของน้ำในหูไม่เท่ากัน
อาการของน้ำในหูไม่เท่ากันมักเกิดขึ้นที่หูข้างใดข้างหนึ่งแบบกะทันหันและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ บางรายอาจมีอาการนานเป็นชั่วโมง จากนั้นอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้น ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีอาการที่แตกต่างกันออกไป มักจะมีอาการหรือสัญญาณเตือนเกิดขึ้นก่อน เช่น วิงเวียนศีรษะ บ้านหมุนเซ ปวดศีรษะ รู้สึกถึงแรงดันภายในหู หูอื้อ รู้สึกไม่สบายใจ เป็นต้น ควรหาที่นั่งพักหากมีอาการข้างต้น
อาการน้ำในหูไม่เท่ากัน มักแบ่งได้ 3 ระยะ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ระยะแรกเริ่ม จะมีอาการวิงเวียนศีรษะแบบไม่ทันตั้งตัว โดยปกติมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง แต่อาจเกิดขึ้นได้นานถึง 24 ชั่วโมง มักมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือมึนหัว อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินหรือหูอื้อร่วมด้วยในเวลาเดียวกัน
ระยะกลาง ยังคงวิงเวียนศีรษะอย่างต่อเนื่อง อาจมีอาการดีขึ้นบ้าง แต่หูอื้อและปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินมักจะแย่ลง บางรายอาจไม่พบอาการนานหลายเดือน หรืออาจจะยังรู้สึกวิงเวียนศีรษะ ไวต่อเสียง สูญเสียการทรงตัวหรือเซร่วมด้วย
ระยะหลัง อาการวิงเวียนศีรษะจะลดน้อยลง อาจพบอาการได้บ้างในช่วงหลายเดือนหรืออาจนานหลายปี ผู้ป่วยอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว รู้สึกไม่มั่นคงที่เท้าเวลายืนหรือเดิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่มืด แต่อาการหูอื้อและปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินมีแนวโน้มที่จะแย่ลง
สาเหตุของน้ำในหูไม่เท่ากัน
ในปัจจุบันยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าน้ำในหูไม่เท่ากันเกิดจากสาเหตุใด แต่พบว่าอาการของโรคเป็นผลมาจากความผิดปกติของน้ำในหู โดยหูชั้นในจะประกอบด้วยโคเคลีย (Cochlea) ซึ่งเป็นท่อที่มีลักษณะเป็นเกลียวและมีช่องเก็บของเหลว มีหน้าที่เกี่ยวกับการได้ยิน และเวสทิบิวล่าร์แอพพาราตัส (Vestibular Apparatus) มีลักษณะเป็นท่อ ช่วยควบคุมเกี่ยวกับการทรงตัว ซึ่งถ้าแรงดันของน้ำในหูมีมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและหูอื้อได้ ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของน้ำในหูชั้นใน ได้แก่
การระบายของเหลวในหูชั้นในที่ไม่ปกติ อาจเกิดจากการอุดตันหรือความผิดปกติของร่างกาย
การตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
โรคภูมิแพ้
การติดเชื้อไวรัส
การบาดเจ็บที่ศีรษะ
ความบกพร่องทางพันธุกรรม ซึ่งสามารถส่งต่อไปยังสมาชิกรุ่นอื่น ๆ ในครอบครัวได้
การปวดศีรษะไมเกรน
สารเคมีของน้ำในหูไม่สมดุล เช่น ระดับโซเดียมหรือโปแทสเซียมในร่างกายมีมากหรือน้อยเกินไป
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโกเรจินส์-ดี คืออาหารเสริมที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกาย ผิวพรรณ ปรับสมดุลให้กับร่างกาย ด้วย 9 พลังมหัศจรรย์ของสารสกัดอันทรงคุณค่าอย่างเช่น สารสกัดมาตรฐานจากโสม , สมุนไพรถั่งเช่า , เห็ดหลินจือ , นมผึ้ง , เมล็ดองุ่น , เปลือกสน , เบต้ากูลแคน , แอล-ซีสเตอิน , แคลเซียม แอสคอร์เบต ที่มาจากธรรมชาติล้วนๆปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อผู้บริโภค
เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการบำรุงสุขภาพ
1. ช่วยให้นอนหลับสนิท คลายความเครียด
2. เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ
3. ลดอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะไมเกรน
4. ให้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
5. ลดการเสื่อมทำลายของอวัยวะต่างๆ และช่วยชะลดการแก่ก่อนวัย
6. ลดอนุมูลอิสระ ขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอเลอไทด์ (Alertide) สำหรับสมองและระบบประสาท
ดูแลสมอง…กับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่รวมสารสกัดที่ดีที่สุดไว้ในหนึ่งเดียวสมองดี ความจำดี ต้องอเลอไทด์ (Alertide)
สมาธิสั้น, บำรุงสมอง, ความจำเสื่อม, อัลไซเมอร์, ความจำดี ต้องนี่เลย อเลอไทด์ (Alertide)
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่สนใจดูแลเรื่องระบบประสาทและสมอง โดยรวมสุดยอดของสารสกัดบำรุงสมองที่ดีที่สุดในปัจจุบันไว้ด้วยกัน อเลอไทด์ (Alertide) จึงเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ช่วยเรื่องความจำ และการเรียนรู้ การสร้างความจำ รักษาความจำ รวมถึงช่วยฟื้นฟูเซลล์สมองที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพให้อยู่ในสภาพที่สมบูณ์ขึ้น เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้สมองอย่างหนัก ผู้ที่มีอาการสมาธิสั้น ผู้ที่มีอาการอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม ผู้สูงอายุ
ช่วยฟื้นฟูความจำและบำรุงสมอง ความจำดี
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ช่วยทำลายและขจัดสารพิษจากตับ
ต้านเซลล์มะเร็ง ลดความเสี่ยงของการเป็นโรค
ช่วยส่งเสริมการทำงานของต่อมหมวกไต ต่อมใต้สมอง
บำบัดรักษาการอักเสบของเส้นประสาทในสมอง
ช่วยบำรุงประสาทและสมองช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้
ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว
ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน ช่วยแก้ไขอารมณ์ ซึมเศร้า
ช่วยคลายเครียด ช่วยฟื้นฟูความจำ
ช่วยป้องกันสมองและตับจากการถูกทำลายจากการดื่มแอลกอฮอล์ ยา และ การสูบบุหรี่
ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทำให้สมาธิดีขึ้น คิดอ่านได้ดีขึ้น
เพิ่มคุณภาพการหลับ ช่วยให้นอนหลับได้สนิทขึ้น
ช่วยป้องกัน มะเร็งต่างๆ ลดอาการภูมิแพ้และไข้หวัด
ช่วยให้มีสมาธิในการเรียน การทำงาน จดจ่อกับสิ่งนั้นๆ ได้นานยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น